แต่หลังจากที่เราได้มีการประชุมกันแล้วภายใน ก็ตั้งโจทย์ให้กับธุรกิจนี้ว่า แบรนด์เดิมคือ จีเพย์เมนท์ นั้นคำว่า " จี " ซึ่งมีที่มาจากตัวอักษร G นั้น ลูกค้ายังไม่เข้าใจในทันทีทันใดว่า สื่อเกี่ยวกับอะไร และการต่อท้ายด้วย " เพย์เมนท์ " อาจช่วยในความรู้สึกว่า ต้องเป็นการจ่ายเกี่ยวกับอะไรสักอย่างแน่ๆ ภาพรวมจึงวิเคราะห์ออกมาได้ว่า
ลูกค้าต้องคิดพอสมควรว่า Gpayment (จีเพย์เมนท์) เป็นบริการเกี่ยวกับอะไร เหมือนต้องแปล ในสมองอีกต่อหนึ่ง
ในแง่ของการสร้างแบรนด์แล้ว พวกเราจึงมองว่ามีข้อด้อยหลายข้อ เช่น
1. ด้วยชื่อแบรนด์เดิมนั้น ต้องแปลความหมายอีก ไม่สื่อสารกับลูกค้าโดยตรง
ดังนั้น เราต้องสร้างแบรนด์ใหม่ หรือแบรนด์ที่ 2 เพื่อสื่อสารกับลูกค้าโดยตรง ให้ลูกค้าเข้าใจได้ทันที
2. ชื่อแบรนด์เดิม ออกแบบแบรนด์ ได้ยากมาก คือ ใช้ความคิดกันมากมาย คิดแล้วคิดอีก ตอนแรกๆ ก็โอเค สนุกอยู่ เพราะเป็นโจทย์ที่อยาก แต่พอหนักเข้าๆ ชักไม่สนุก เพราะเท่ากับมีปม 2 ชั้น คือชื่อแบรนด์เดิมก็ไม่สื่อ อยู่แล้ว ยังต้องออกแบบแบรนด์ใหม่ ให้ไปช่วยเหลือ " ชื่อเดิม " อีก
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องสร้างแบรนด์ใหม่ เพื่อให้ง่ายต่อการออกแบบแบรนด์ ด้วย เพื่อให้ลูกค้าเห็นปุ๊บ เข้าใจปั๊บ
3. เราต้องการทำธุรกิจ รับฝากชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ บนอินเตอร์เน็ต เป็น Main Business ซึ่งด้วย 2 ข้อที่ผ่านมา แล้วมารวมกับข้อนี้ จึงถือว่ายากมากๆ
ดังนั้น เราคิดว่า แบรนด์ใหม่ที่ได้ ต้องบอกลูกค้าได้ทันทีว่า เราเป็นธุรกิจที่เน้นให้บริการทางอินเตอร์เน็ต
โจทย์ที่ท้าทาย แบรนด์ใหม่ ที่ต้องสร้างขึ้น ความสำเร็จข้างหน้าบนอินเตอร์เน็ต ต้องใช้แบรนด์ใหม่ เป็นตัวผลักดัน ต้องทำให้ได้ คิดกันอยู่หลายวัน
สำหรับความสำคัญอันดับแรก คือชื่อแบรนด์ คุณบี จาก Asia Webvertising ได้เสนอชื่อ ที่ตรง concept มาก คือ " สะดวกจ่าย สบายเพย์ " และ " สะดวกจ่าย แบบสบาย กับจีเพย์ "
และหลังจากช่วยกันวิเคราะห์ วิจารณ์ ร่วมกันแล้ว เราจึงเลือก " สะดวกจ่าย สบายเพย์ " เป็นคำตอบสุดท้ายครับ แต่โลโก้ หรือแบรนด์ นี่ซิครับ ต้องโดนใจ ต้องสื่อสารกับลูกค้าได้ ทั้งในแง่งานบริการ และการให้บริการทางอินเตอร์เน็ต พวกเราคิดกันมากพอสมควร แต่อย่างน้อยชื่อก็ช่วยไปได้เยอะ
และครั้งนี้ ก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่เป็นข้อพิสูจน์ว่า " สงบ สยบความเคลื่อนไหว " จริงๆ คิดเข้าไป วิ่งเข้าไป แล้วก็เหนื่อย จากนั้นก็พัก บางครั้งการที่เราโลดแล่นไปทางด้านความคิด เราอาจไม่ได้อะไร ต้องลองหยุดบ้าง ถ้าเรานิ่ง เราอาจได้บางสิ่งบางอย่างมากกว่าก็ได้
ผมนั่งมองไปข้างหน้าผม ที่มีแต่อุปกรณ์บนโต๊ะทำงาน
โน๊ตบุ๊ค มือถือ รางปลั๊กไฟ กองเอกสาร เครื่องแฟกซ์ กระติกน้ำ เม้าส์ แบตเตอร์รี่ สายชาร์จ ไม้กระดาน ทีวีจอเล็ก.......... มองไป มองมา หมดแล้วครับ คิดไม่ออก ไม่เห็นมีอะไรเลย ทำยังไงดี..... และแล้ว
ใต้ไม้กระดานของผม ที่ทำมาวางเป็นโต๊ะ ( อ่านรายละเอียด เรื่อง " เตียงทำงานของผู้ทุพพลภาพ " ที่ผมเขียนเป็นบทความที่ลิงค์นี้ ) ยังมีไม้กระดานอีกแผ่นที่เอาไว้บล๊อกเข่าผม ไม่ให้ดีดขึ้นมา (เพราะผมเป็นผู้ทุพพลภาพ จะมีอาการเกร็งเป็นระยะๆ) และยังเป็นที่วางของ " คีย์บอร์ด " เพราะถึงผมจะใช้โน๊ตบุ๊ค ผมก็จำเป็นต้องมีคีย์บอร์ดไว้ด้วย เพื่อความสะดวกในการพิมพ์งาน






ผมหวังว่าบทความนี้ คงพอมีประโยชน์แก่เพื่อนๆ ที่ได้อ่านในหลายๆ ด้านนะครับ เช่น concet ของการออกแบบ หรือการตั้งโจทย์ของงานที่กำลังทำ รวมถึงอยากให้เพื่อนๆ เอาใจช่วยให้ผมสามารถทำงานนี้ จนสำเร็จลุล่วง เพราะถ้า เว็บไซต์นี้ประสบความสำเร็จ ผู้ใช้บริการ หรือลูกค้ายอมรับ จะช่วยสังคมโดยรวมได้มาก ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ผู้ทุพพลภาพอย่างผมได้งาน ได้รายได้ แล้ว ผมมีความตั้งใจจะกระจายงานนี้ไปยังผู้ที่สนใจจะทำเป็นธุรกิจ โดยเฉพาะผู้พิการ-ทุพพลภาพ

No comments:
Post a Comment