เนื่องจากมีเพื่อนๆ แจ้งกลับมาพอสมควรว่าอยากอ่านบทความเฉพาะด้านการทำงานของผม หมายถึงด้านการสร้างรายได้นะครับ ผมจึงคิดว่าจะทยอยรวบรวม และเรียบเรียงเป็นบทความให้ใหม่ ช่วงนี้งานมาก รอสักระยะหนึ่งนะครับ

ขอบคุณมากครับ
ปรีดา ลิ้มนนทกุล
55-03-04

สคริปประเด็นเสวนา “ศักยภาพของผู้พิการ...สู่สิทธิและศักดิ์ศรี” ในงานวันคนพิการสากล ประจำปี ๒๕๕๑

ประเด็นเสวนา
เรื่อง “ศักยภาพของคนพิการ สู่สิทธิและศักดิ์ศรี”
วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๕๑ เวลา ๑๒.๔๕- ๑๔.๐๐ น.
ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


ผู้ดำเนินการเสาวนา นางอัญชีพร กุสุมภ์


๑. คุณสายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาฟันดาบเหรียญทองจากพาราลิมปิก

  • อะไรคือแรงบันดาลใจสู่การเข้าแข่งขันพาราลิมปิก เกมส์
  • ปัญหาและอุปสรรคในการฝึกซ้อม / การแข่งขันต้องเผชิญอะไรบ้าง
  • และได้ฝ่าฟันเอาชนะอุปสรรคต่างๆ มาได้อย่างไร
  • จนวันนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จได้เหรียญทองแล้ว ถือได้ว่าเป็นต้นแบบคนพิการที่ต่อสู้ฝ่าฟันจะได้รับชัยชนะ อยากบอกอะไรกับคนพิการคนอื่นๆ หรือฝากอะไรกับสังคมไทยบ้าง


๒. คุณปรีดา ลิ้มนนทกุล ผู้บริหารบริษัท PWD Outsource Management

1. อะไรทำให้คุณปรีดาเข้าสู่อาชีพการเป็นนักธุรกิจ จนถึงปัจจุบันถือได้ว่าเป็นเจ้าของธุรกิจคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง


คงต้องเริ่มจาก ผมเคยเป็นพนักงานประจำอาชีพวิศวกรขายมาตลอดจนเกิดเหตุหลับใน รถคว่ำ จนเป็นผู้ทุพพลภาพ อายุ 29 พอดีครับ โดยปกติบริษัทพอทราบว่าพนักงานเป็นผู้ทุพพลภาพ ก็ต้องตีความก่อนว่าคงไร้ประสิทธิภาพ ไม่น่าจะทำงานได้ จึงต้องออกโดยปริยาย แต่ทางบริษัทก็ดูแลผมดี จนพ้นสภาพความเป็นพนักงาน แต่ก็อาจจะลงตัวก็ได้ เพราะสมัยที่ผมเรียนจบตอนอายุ 21 ผมก็ตั้งใจไว้ว่า อายุ 30 ต้องตั้งบริษัทเป็นของตนเอง ก็เลยได้ฤกษ์งามยามดี ตั้งบริษัทซะเลย นำความรู้ทั้งหมดมาทำงาน


ปรกติ ผมก็ทำงานร่วมกับคนปกติมาตลอด จนได้มาทำงานด้านการหางานให้เพื่อนผู้พิการด้วยกัน เป็นบริษัท PWDOM จำกัด ทำไปทำมาเริ่มรู้สึกรักงานนี้ที่ทำมากขึ้นเรื่อยๆ เวลาเห็นสมาชิกผู้พิการมีรายได้มาก ทำให้ดีใจ ปลาบปลื้มใจ สมาชิกบางครอบครัวเคยมีรายได้ไม่พอใช้ ลูกก็ต้องให้คุณปู่คุณย่าเลี้ยง หลังร่วมงานมีรายได้มากจนสามารถนำลูกมาเลี้ยงได้เอง พาแม่ตัวเองมาเลี้ยงดูได้ ได้ตอบแทนบุญคุณบุพการี


เหนือสิ่งอื่นใด คือ สมาชิกรู้สึกมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีในตนเอง ภูมิใจกับความสามารถของตนเอง แต่ส่วนตัวแล้วยังถือว่าไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไร เพราะงานที่ทำพึ่งเริ่ม ถึงลูกค้าคือ มือถือฮัทช์จะไว้วางใจให้ได้บริหารงานอย่างต่อเนื่องก็ตาม

2. ในการดำเนินธุรกิจ พบปัญหาอะไรบ้าง / ได้รับการยอมรับจากคู่ค้าหรือไม่


ตั้งแต่สมัยปกติแล้ว ผมเป็นคนตั้งใจในงานที่ทำ คิดไม่เหมือนใคร ไม่สิ้นหวัง สร้างโอกาสให้ตัวเองเสมอ หรือเตรียมตัวตลอดเวลา เมื่อโอกาสมาถึงก็จะทำงานได้ประสบความสำเร็จง่ายขึ้นครับ ดังนั้นในความคิดของผม ผมมักจะกำหนดเป้าหมาย แล้วพยายามทำให้ได้ตามเป้าหมาย และถ้าเราตั้งใจอย่างนั้น เมื่อพบกับปัญหา หรืออุปสรรค ก็จะสามารถหาทางแก้ไขได้เอง เมื่อเราทำงานสำเร็จตามเป้าหมาย ลูกค้าก็ย่อมยอมรับผลของการทำงานด้วยเช่นกันครับ

ส่วนงานที่ทำด้านการหางานให้ผู้พิการนั้น ก็มีปัญหาบ้างเช่น ผู้พิการยังไม่มีความเชื่อถือ เนื่องจากเคยถูกหลอกมาเยอะ หรือแม้แต่การที่ทางบริษัทต้องให้เวลากับตัวผู้พิการที่พวกเขาต้องชนะตัวเอง ทนกับแรงกดดัน สมาชิกบางคนมีความสามารถแต่ไม่มีเครื่องมือ คือ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น แต่ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้ สามารถแก้ไขได้ทั้งหมดครับ เพียงแต่เรามีเป้าหมายครับ


3. แล้วเอาชนะอุปสรรค / ปัญหาในการดำเนินธุรกิจอย่างไร


ทำตามเป้าหมายที่วางไว้ครับ จะสามารถแก้ปัญหา และอุปสรรคได้เองครับ เวลาที่ผมเหนื่อย หรือท้อ ผมมักจะนึกถึง พระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้ผมมีแรง มีกำลังขึ้นมาทันที เพราะพระองค์ทรงงานมากกว่าใครๆ ในความรู้สึกของผม ครับ


4. มีข้อเสนอแนะ ด้านการดำเนินธุรกิจกับคนพิการคนอื่นๆ อย่างไรบ้าง


ผมคิดว่า คนพิการนั้นมีแรงกดดันจากคนรอบข้างพอสมควร และถ้าตัวผู้พิการก้าวข้ามตัวเอง
ไปได้ สามารถชนะใจตัวเองได้ จะสามารถแสดงความสามารถได้อย่างคาดไม่ถึง หรืออีกนัยหนึ่ง ในมุมมองของผมนั้น “ความพิการ เป็นเส้นทางลัดสู่ความสำเร็จในชีวิต”

ยกตัวอย่างง่ายๆ ผมเขียนบล็อก ซึ่งเป็นบทความในโลกอินเตอร์เน็ต จริงๆ แล้ว ก็มีคนเขียนบทความในอินเตอร์เน็ตเป็นหลายล้านคน แต่เพราะผมเป็นผู้พิการ จึงได้รับความสนใจจนได้รับเชิญเป็นวิทยากรไปพูดเกี่ยวกับเรื่องแรงบันดาลใจในการเขียนบล็อก หรือแม้แต่งานของบริษัท PWDOM ก็ตาม เป็นงานลักษณะเอาท์ซอส คือหางาน ซึ่งมีบริษัทลักษณะนี้ที่รับหางานให้คนปกติเยอะมาก แต่พอมาทำเป็นการหางานให้ผู้พิการ ก็เป็นเรื่องแปลก เพราะไม่มีใครเขาทำกัน เจอคนพิการมาสมัครก็ปฏิเสธเกือบ 100% และแต่เมื่อทำสำเร็จ ก็ได้รับความสนใจจากสังคมพอสมควร ผมยังเคยอดดีใจไม่ได้ ที่มีคนปกติโทรเข้ามาสมัครเป็นสมาชิก ขอทำงานด้วย เพราะเห็นเพื่อนคนพิการของเขามีรายได้ดี


ดังนั้น ผมอยากให้ผู้พิการ หรือแม้แต่คนปกติก็ตาม ให้ถามตัวเองว่า เราถนัดอะไร และถ้าได้ลงมือทำอะไรแล้ว ก็ต้องทำให้ได้ตามเป้าหมาย ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ตลอดเวลา อย่าหยุดที่จะเรียนรู้ โดยเฉพาะงาน หรือธุรกิจที่ตัวเองทำอยู่


5. คิดว่าในอนาคต สถานการณ์การทำธุรกิจโดยคนพิการจะเป็นอย่างไรบ้าง


ลักษณะของแนวคิด ที่ผมกำลังพยายามเผยแพร่อยู่นี้ อาจจะจุดประกายให้ผู้พิการมีการรวมตัวกัน อย่างน้อยก็ในกลุ่มสมาชิกของบริษัทเอง ในโครงการหน้านี้ ในปีหน้า คงจะเกิดปรากฏการณ์นั้นแล้ว จากการที่ผมพยายามปลูกฝังแนวคิดให้สมาชิก เพราะสมาชิกของบริษัท ต้องมีการพัฒนาตนเองตลอดเวลา จริงๆ แล้ว สถานการณ์เรื่องงาน ส่วนใหญ่ผู้พิการต้องพึ่งตนเองเป็นหลัก ดังนั้นในระยะเริ่มต้นนี้ การรวบรวมผู้พิการรับงานในลักษณะโครงการ โดยมีแกนบริหารจากทางบริษัทนั้น ยังไปได้แน่นอน

จนกว่าทางบริษัท จะสามารถสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับในภาคสังคมได้อย่างแพร่หลายมากกว่านี้ จนเป็นที่ต้องการของตลาด เกิดความไว้วางใจในความสามารถของผู้พิการ ก็จะสร้างโอกาสให้ผู้พิการสามารถสร้างธุรกิจได้ง่ายขึ้น รวมทั้งมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นครับ


ที่สำคัญ อย่างที่ผมเคยกล่าวว่า ผ้าพิการต้องชนะตัวเองก่อน ไม่อายใคร มั่นใจในตัวเอง ทำธุรกิจ หรืองานที่ตัวเองถนัดอย่างตั้งใจ อดทน ทำเหมือนเราเป็นส่วนหนึ่งของสังคม อนาคตสร้างได้ด้วยตัวเองครับ


๓. ตัวแทนจากเยาวชนผู้พิการทางการได้ยิน (สนทนาผ่านล่ามภาษามือ)

  • ปัจจุบันเรียนที่ไหน / การเรียนมีปัญหาอะไรหรือไม่
  • อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้เข้าประกวดงานแอนนิเมชั่น
  • ร่วมทีมกันทำงานอย่างไร
  • ชนะการประกวดแล้ว ทีมน้องคงจะรู้สึกยินดี อยากบอกอะไรกับเพื่อนๆ ไหมว่าทำอย่างไร เราจึงประสบความสำเร็จ
  • คิดว่าอนาคตของตัวเอง จะก้าวสู่ความสำเร็จสายอาชีพทางด้านไหน

1 comment:

  1. พูดได้เยี่ยมมากครับ สุดยอด
    เปี่ยน สมาชิกโครงกการ 2

    ReplyDelete